สมุนไพรใกล้มือ
วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ลูกยอ ดีมาก
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555
หญ้าหวาน ใช้แทนน้ำตาลได้
สรรพคุณ....หญ้าหวาน
หญ้าหวานเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจที่จะนำมาศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้ให้มากขึ้นเนื่องด้วย
ลักษณะพิเศษคือ มีสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 100-300 เท่าแต่ในความหวานที่มากมายนี้กลับไม่ก่อให้เกิดพลังงาน
ยิ่งถือว่าเป็นความพิเศษที่มีอยู่ในพืชชนิดนี้ซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติที่เราควรที่จะต้องศึกษาและนำมาใช้ให้เกิด
ประโยชน์ต่อไป
ชื่อภาษาไทย : หญ้าหวาน
ชื่อท้องถิ่น : -
ชื่อสามัญ : Stevia
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stevia rebaudiana Bertoni.
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
หญ้าหวานเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูงประมาณ 30-90 ซม. ลักษณะทั่วๆ ไปคล้ายต้นโหระพา ใบเดี่ยวรูปหอกปลาย
แหลมกว้าง 10-15 มม. ยาว 30-40 มม. ก้านสั้นขอบใบมีลักษณะคล้ายฟันเลื่อย ลำต้นแข็ง กลมและเล็กเรียวเป็นไม้พุ่มขนาด
เล็ก อายุประมาณ 3 ปี ประเทศไทยปลูกได้ดีช่วงปลายฝนต้นหนาวในที่ดอน เช่น ภาคเหนือสูง 400-1,200ม. เหนือระดับน้ำทะเล
แหล่งที่พบ
หญ้าหวานเป็นพืชซึ่งพบในแถบอเมริกาใต้และยังเป็นพืชพื้นเมืองของบราซิล มีการค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาว
อเมริกาใต้ เมื่อปี 1887 คือ 113 ปีมาแล้ว โดยมีชาวพื้นเมืองปารากวัยใช้สารหวานนี้ผสมกับชากินมากว่า 1500 ปีต่อมาชาว
ญี่ปุ่นนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ปี 1982 คือ 27 ปีมาแล้ว ในประเทศไทยสามารถพบได้ในแถบภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัด
เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ ซึ่งมีการปลูกหญ้าหวานกันมาก
การใช้ประโยชน์
1. การใช้ประโยชน์ทางด้านยา
- ใช้เป็นสารให้ความหวานในกลุ่มของผู้ป่วย โรคเบาหวาน และไขมันในเส้นเลือดสูง ทดแทนการบริโภคน้ำตาล
2. การใช้ประโยชน์ทางด้านอาหาร
- ใช้ดื่มโดยการชงดื่มแบบชามากกว่าการผสมในเครื่องดื่มชนิดอื่น หรือการผสมในอาหาร
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
หญ้าหวานเป็นพืชที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาล 10-15 เท่า สารสกัดจากหญ้าหวาน คือ Stevioside มีความหวานกว่า
น้ำตาล 100-300 เท่า แต่ไม่ถูกย่อยให้เกิดพลังงาน นักวิชาการจึงสนใจประเด็นสารสกัดสตีวิโอไซด์ว่ามีพิษหรือไม่ และควรกินเท่า
ใดจึงปลอดภัย ซึ่งได้คำตอบว่า สตีวิโอไซด์ ปลอดภัยในทุกกรณี และค่าสูงสุดกินได้ถึง 7.938 มก/น้ำหนักตัว 1 กก. ซึ่งกินได้สูงมาก
ในความเป็นจริง มีผู้บริโภคได้ทั่วไป แค่ 2 มก./ น้ำหนักตัว 1 กก. ก็หวานมากแล้วดังนั้นจึง เป็นเครื่องยืนยันว่า การบริโภคหญ้า-
หวานในรูปสตีวิโอไซด์ มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ ยังได้มีการวิจัยหญ้าหวานในรูปแบบสมุนไพรกับอาสาสมัครแล้วพบว่า
ปลอดภัยคือใช้หญ้าหวานประมาณ 1-2 ใบต่อเครื่องดื่ม1 ถ้วยหรือสูงสุดกินได้ถึง 7.9 กรัม / วัน ซึ่งสูงมากเปรียบได้กับกินผสมกา-
แฟหรือเครื่องดื่มถึง 73 ถ้วย / วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับคนเราส่วนใหญ่กิน 2-3 ถ้วย/วันเท่านั้น
ผลิตภัณฑ์ของเขาค้อทะเลภู
ชาสมุนไพรหญ้าหวาน , ชาทะเลภู 1 พลังสีเหลือง , ชาทะเลภู 2 พลังสีชมพู , ชาทะเลภู 3 พลังสีน้ำตาล , ชาทะเลภู 5
พลังสีเขียว ,ชาทะเลภู 6 พลังสีแดง , ชาทะเลภู 7 พลังสีม่วง , สมุนไพรอบแห้งต่างๆ และน้ำสมุนไพรเสตอริไรซ์ กระชายดำ
น้ำผึ้ง เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
http://www.phoomtai.com/Story005.htm
วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ต้น ครอบจักรวาล
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Abutilon indicum (L.) Sweet
ชื่อสามัญ : Country mallow, Indian mallow
วงศ์ : Malvaceae
ชื่ออื่น : ครอบ ครอบจักรวาฬ ตอบแตบ บอบแปบ มะก่องเข้า (พายัพ) ก่อนเข้า (เชียงใหม่) โผงผาง (โคราช ) ครอบตลับ หญ้าขัดหลวง หญ้าขัดใบป้อม ขัดมอนหลวง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพรรณไม้พุ่ม ลำต้นสูงไม่เกิน 5 ฟุต และจะเป็นขนสีขาวนวล ใบจะกลมและโตประมาณ 7 ซม. ใบค่อนข้างหนาจะมีขนสีขาวนวล ดอกจะโตประมาณ 2-3 ซม. เป็นดอกสีเหลือง ผลนั้นจะมีลักษณะกลมเป็นกลีบๆ คล้ายฟันสีที่ใช้สีข้าวแต่ชนิดนี้ผลจะเป็นรูปตูมๆ ไม่บานอ้า เหมือนชนิดอื่น
ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น ราก และเมล็ด เก็บในฤดูร้อนและฤดูหนาว ตัดทั้งต้น ล้างสะอาด ตากแห้งเก็บไว้ใช้
สรรพคุณ :
ทั้งต้น - รสชุ่ม สุขุม ไม่มีพิษ ใช้แก้ร้อน ชื้น ฟอกเลือด แก้ท้องร่วง หูอื้อ หูหนวก แผลบวมเป็นหนอง โรคเรื้อน ปัสสาวะขัด เจ็บ ขุ่น คางทูม ขับลม เลือดร้อน
ราก - รสจืด ชุ่ม เย็น ใช้แก้ร้อน ชื้น ฟอกเลือด แก้ไอ หูหนวก หูชั้นกลางอักเสบ เหงือกอักเสบ คอตีบ ปวดท้อง ท้องร่วง ริดสีดวงทวาร ขับปัสสาวะ
เมล็ด - ใช้แก้บิดมูกเลือด ฝีฝักบัว
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
ทั้งต้นแห้ง 30- 60 กรัม ต้มน้ำดื่มหรือตุ๋นกับเนื้อไก่รับประทาน ใช้ภายนอก ตำพอก
รากแห้ง 10- 15 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ตำพอก หรือต้มน้ำชะล้าง
เมล็ดแห้ง 3.2 กรัม บดเป็นผงรับประทาน วันละ 3 ครั้ง
ตำรับยา :
แก้ผื่นคัน เนื่องจาการแพ้
ใช้ทั้งต้นแห้ง 30 กรัม ผสมกับเนื้อหมู (ไม่เอามัน) พอประมาณ ตุ๋นน้ำรับประทาน
แก้ริดสีดวงทวาร
ใช้ราก 150 กรัม ต้มเอาน้ำข้นๆ ดื่มประมาณ 1 ถ้วยชา ที่เหลืออุ่นเอาไอรมที่ก้นพออุ่นๆ ทนได้ ใช้รมวันละ 5-6 ครั้ง เอาน้ำอุ่นๆ ชะล้างแผล
แก้หกล้ม เป็นบาดแผลหรือร่างกายอ่อนแอ ไม่มีกำลัง
ใช้รากแห้ง 60 กรัม ต้มกับขาหมู 2 ขา ผสมกับเหล้าเหลือง 60 กรัม ต้มน้ำรับประทาน
แก้ข้อมือข้อเท้าอักเสบ หรือแผลอักเสบที่ทำให้กล้ามเนื้อลีบ
ใช้รากแห้ง 30 กรัม ผสมน้ำ และเหล้าอย่างละเท่าๆ กัน ตุ๋นรับประทาน
แก้คอตีบ
ใช้รากสด 30 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรืออาจะเพิ่มรากหญ้าพันงู ( Achyranthes aspera L. A. Bidentata BL., A.longiforia Mak. ) สด กับรากว่านหางช้าง ( Belamcanda. Chinensis DC. ) สด พอสมควร ตำคั้นเอาน้ำมามาผสมกับปัสสาวะให้เด็กรับประทาน
แก้หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
ใช้รากแห้ง 15- 30 กรัม ข้าวเหนียว 1 ถ้วย หรือเนื้อหมูไม่ติดมัน หรือเต้าหู้แทนก็ได้ ในปริมาณสมควร ต้มน้ำรับประทาน
ใช้แก้รากฟันเน่าเป็นหนอง
ใช้รากแห้ง 15 กรัม ผสมน้ำตาลแดงพอสมควร ต้มน้ำดื่มหรือใช้รากแห้ง แช่น้ำส้มสายชู 1 ชั่วโมง แล้วเอาผ้าห่ออมไว้ในปากบ่อยๆ
แก้บิดมูกเลือด
ใช้เมล็ดคั่วให้เกรียม บดเป็นผง รับประทานพร้อมกับน้ำผึ้ง ครั้งละ 3.2 กรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร
แก้ฝีฝักบัว
ใช้เมล็ด 1 ช่อ บดเป็นผงชงน้ำสุกอุ่นๆ รับประทานแล้วเอาใบสดตำผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำตาลแดง พอกที่แผล
สารเคมี : ทั้งต้น มี Flavonoid glycoside, Phenols, Amino acids, น้ำตาล (พวก Flavonoid glycoside มี Gossypin, Gossypitrin, Cyanidin-3-rutinoside)
ใบ มี Mucilage, Tannins, Organic acid, Traces of asparagin และเถ้าที่ประกอบด้วย Alkaline sulphates, Chlorides, magnesium phosphate และ Calcium carbonate
ราก มี Asparagin
เมล็ด มีไขมันประมาณ 5% fatty acid ซึ่งมี Oleic acid 41.3% Linoleic acid 26.67% Linolenic acid 6.8% Stearic acid 11.17% Palmitic acid 5.08% Non-saponified matter ประมาณ 1.77% (ซึ่งเป็นพวก Sitosterol)
กากเมล็ด ประกอบด้วย Raffinose (C18 H32 O16)
แหล่งที่มาของข้อมูลเนื้อหา
เมล็ดพันธุ์
เรื่องใดน่าสนใจ สาวคนนี้ ต้อง พาไปดู
แหล่งอ้างอิง1
อย่าลืมนะครับ หากคุณๆ มีความสนใจ ในสมุนไพรใบว่านยา เหมือนกับเรา เรามีพื้นที่ตรงนี้ ให้คุณนำรูป และ สรรพคุณ มาแสดงได้ หรือให้แม้กระทั่ง โฆษณา ขายยาสมุนไพรดีๆ ลงให้ฟรีครับ ตอบโพสต์ไว้ในกล่องด้านล่างนี้ได้เลยครับ....
ป้ายกำกับ:
แก้หูหนวก,
แก้หูอักเสบ,
ครอบจักรวาล,
ยาดี,
สมุนไพร
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)


